เครื่องตัดด้วยเลเซอร์ถูกใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อการตัดวัสดุอย่างแม่นยำ วัสดุที่นิยมนำมาตัดด้วยเลเซอร์ ได้แก่ โลหะ ไม้ อะคริลิก และผ้า โดยขั้นตอนการใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์มีทั้งหมด 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การเตรียมการ ตั้งค่า เริ่มตัด และขั้นตอนหลังการตัด แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญต่อการตัดที่มีคุณภาพและการใช้งานที่ปลอดภัย
1. การออกแบบและการตั้งค่าพารามิเตอร์
ขั้นตอนสุดท้ายในการตัดด้วยเลเซอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือการนำเข้าแบบตัด และการตั้งค่าพารามิเตอร์การตัดด้วยเลเซอร์
1.1 การนำเข้าไฟล์ตัด หากคุณออกแบบไฟล์ตัดด้วยตนเองหรือโหลดไฟล์แบบที่มีอยู่ก่อนแล้วที่คุณใช้ในซอฟต์แวร์ CAD/CAM ซึ่งใช้งานร่วมกับเครื่องจักรที่คุณกำลังใช้ ไฟล์ที่นำเข้ามาสามารถอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น .
2 การตัดทดสอบและการปรับเทียบ
ในการตัดทดสอบ เราไม่ต้องการให้วัสดุสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ หรือเกิดค่าพารามิเตอร์การตัดที่ปรับเทียบไม่ถูกต้อง
2.1 การทำการตัดทดสอบ เราต้องการตัดทดสอบในพื้นที่เล็ก ๆ และไม่ใช่จุดเด่น ให้ทำการตัดโดยใช้พารามิเตอร์ที่เราตั้งไว้ หลังจากการตัดทดสอบ ให้ตรวจสอบผลลัพธ์ ผลลัพธ์ควรมีขอบที่เรียบร้อย ตัดทะลุวัสดุทั้งชิ้น โดยไม่มีรอยไหม้ในวัสดุที่ไม่ใช่โลหะ และไม่มีสะเก็ดโลหะจากวัสดุโลหะ
2.2 การปรับค่าพารามิเตอร์หากจำเป็นหากการตัดทดสอบไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราต้องการปรับค่าพารามิเตอร์ใหม่ การปรับครั้งแรกควรเป็นกำลังไฟ ซึ่งเราจะเพิ่มเพื่อแก้ไขการตัดที่ไม่สมบูรณ์หรือขอบที่หยาบ เมื่อเราพอใจกับผลลัพธ์แล้ว ให้ทำการทดสอบการตัดซ้ำจนกว่าเราจะพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ โดยรวมแล้ว คุณควรทดสอบการตัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะบรรลุผลลัพธ์การตัดที่คุณต้องการสังเกตฟังเสียงที่ผิดปกติ ประกายไฟ หรือควัน เพราะสิ่งเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงปัญหา เช่น การจัดแนวไม่ตรงหรือข้อผิดพลาดของพารามิเตอร์ กดปุ่มหยุดฉุกเฉินทันทีหากเกิดปัญหา เช่น วัสดุเคลื่อนที่หรือเกิดไฟไหม้
3. ขั้นตอนหลังการตัด
หลังจากกระบวนการตัดเสร็จสิ้น มีหลายขั้นตอนที่ใช้ปิดงาน
3.1 การปิดเครื่องหลังการตัดเมื่อการตัดเสร็จสมบูรณ์ ให้รอจนหัวเลเซอร์กลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น จากนั้นให้ปิดเครื่องกำเนิดเลเซอร์ก่อน แล้วตามด้วยระบบเสริม เช่น ระบบระบายความร้อนและระบบดูดควัน และปิดแหล่งจ่ายไฟหลักเป็นลำดับสุดท้าย
3.2 การถอดชิ้นงาน ถอดชิ้นงานที่ตัดแล้วออกอย่างระมัดระวังโดยใช้ถุงมือ เนื่องจากอาจยังร้อนอยู่ ทำความสะอาดพื้นโต๊ะทำงานให้ปราศจากเศษวัสดุ วัสดุที่เหลือ หรือไอระเหย
3.3 การตรวจสอบคุณภาพ ตรวจสอบชิ้นงานที่แล้วเสร็จเพื่อความถูกต้องของมิติ คุณภาพของขอบ และข้อบกพร่องต่าง ๆ เช่น การบิดงอหรือรอยไหม้ บันทึกค่าพารามิเตอร์ที่ตั้งไว้เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอเมื่อใช้วัสดุชนิดเดียวกัน